สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมขอชื่นชมกับความตั้งใจของทั้งอาจารย์น้อย และอาจารย์โชค และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านที่มีความตั้งใจที่จัดงานขึ้นให้มีมาตรฐานและมีคุณภาพ และทำให้งานมีการตัดสินที่ดีขึ้นกว่าทุกๆ ครั้ง อาจจะไม่ถูกใจทุกคนแบบ 100 % แต่ผมว่าถูกใจคนหมู่มากแน่นอนครับ เพราะมีการตัดสินที่ดีขึ้น ยุติธรรมขึ้น เห็นได้ชัดจากการที่อาจารย์ทั้งสองเดินดูควบคุมด้วยตนเอง  และหวังว่าการตัดสินแบบนี้คงจะมีต่อไปในงานครั้งหน้า 

ขอติเรื่องเดียวคือเรื่องการถ่ายรูปนี้ละครับ ปัญหามากๆ ทำให้การรับพระมีปัญหาตามมาทันที สงสารผู้อยู่ต่างจังหวัด บางคนมาจากกรุงเทพฯ จองตั๋วรถกลับไว้ ทุ่มหนึ่ง เขาก็ไม่รอละถ่ายรูปใบประกาศ พระบางโต๊ะ ทุ่มหนึ่ง ยังไม่ได้เอาไปถ่ายรูปเลย บางคนอยู่ ตจว.ในเขตภาคเหนือ กว่าจะถึงบ้าน 5 ทุ่ม ถึง เที่ยงคืน ของผม ผบ.ทบ.โทรตามทุก 1 ชม.เพราะมันเลยเวลาผิดปกติจากที่เคยไปประกวดมา สงสัยกลัวผมไปแวะรายทาง อิๆ แต่โดยรวมสำหรับผมดีครับ ได้ประสบการณ์ไปอีกแบบ คิดแนว+++ ขอบคุณสำหรับงานดีๆ แบบนี้ และขอเป็นกำลังใจให้ตลอดไปครับ 

สวัสดีครับ...

ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ต้องรอ แต่โชคดีทีี่ ผบ.ทบ.มาด้วยจึงไม่มีการโทรตามให้กวนจิตกวนใจ อย่างว่าแหละครับ หากไม่ทำก็ไม่ผิดหรอกอย่าว่ากันเลยเรื่องแบบนี้ กล้องถ่ายรูปแบบดีๆ ราคาก็แพงมาก หากนำทีมถ่ายมาเยอะมากๆ แล้วส่งน้อยก็มีปัญหาอีกเช่นกัน เรื่องแบบนี้พอหอมปากหอมคอกัน

ผมเจอเด็ดกว่านั้นอีก นำใบรับพระไปส่งขอรับ...เจ้าหน้าที่บอกว่าพระผมได้ที่ 1 ให้รอถ่ายรูปก็จำเป็นต้องรอนะ รอจนได้รับผมปรากฏว่า ได้รางวัลชมเชยครับ รายมือที่กล่องผมเขียนเอง แต่พระข้างในไม่ใช่ของผม /// พระของผมกลับไปอยู่ในกล่องคนอื่นที่ติดรางวัลที่ 1 ผมจำเป็นต้องรีบกลับพะเยานะ จำเป็นมาก วิธีการแบบนี้จะหาข้อสรุปได้อย่างไร ผมขับรถกลับมานั่งคิดตลอดทางว่า "ไม่น่าจะเกิดเรื่องแบบนี้" เกิดแล้วไม่ไม่ใครสรุปให้ได้ นอกจากเถียงกัน ขนาดชี้ตำหนิให้แล้วว่าของผมมีแบบนี้...อีกฝ่ายก็ส่องดูแล้วบอกบ้างว่าเขาก็มีแบบที่ผมพูด เลยหาข้อสรุปไม่ได้ โครตเซ้งเลยล่ะ แล้วแบบนี้จะทำอย่างไรกันล่ะท่านครับ

คงมีการสลับกันเยอะนะ...เท่าที่เห็นผู้ร่วมชะตากับผม คุณแว่น บ้านโฮ่ง ครูบาสุรินทร์

เคท ของ คุณแว่น บ้านโฮ่ง เหรียญครูบาสุรินทร์นั้น ได้จบลงวันนี้แล้วครับ สาเหตุเนื่องจากคุณแว่นได้ยืมเหรียญเพื่อนมาส่งแล้วตอนคืนไปแล้วเกิดอะไรมิทราบได้ เค้ากลับมาบอกว่าไม่ใช่พระเค้า ทางผมและอ.น้อย ไอยรา ก็เข้าไปดูให้พอดีในตู้เหลือยู่ 2 องค์จึงนำมาให้ดูแล้วถามว่าของพี่องค์ไหน คุณแว่นก็หยิบของที่คิดว่าเป็นของเค้าไป พร้อมกับให้นามบัตรพร้อมลายเซ็นต์กำกับเอาใว้เป็นหลักฐานซึ่งท่าน อ.น้อย เป็นพยานได้ แต่พอมีคนมารับพระรายการนี้คืนอีก(พี่สงวน) เค้าก็บอกว่าพระของเค้าสวยกว่านี้เหรียญนี้ไม่ใช่ของเค้า ก็เลยต้องโทรหาคุณแว่นที่เอาเหรียญไปเมื่อครู และได้คำตอบว่า.....พระที่คุณแว่นหยิบไปนั้นสวยกว่าของเดิมที่ยืมมาอีกครับ ซึ่งเจ้าของพระเค้าบอกเองว่าเหรียญนี้สวยกว่าเหรียญของเขาอีก วันนี้จึงให้คุณหนุ่ยกรมทางนัดทั้งสองคน และก็ทำการส่งพระคืนให้กับทั้งสองคนเรียบร้อยแล้วครับ

เหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ผมอยากให้ร่วมมือกันทั้งสองผ่ายเช่น

1.เมื่อรับพระคืนไปแล้วอย่าเพิ่งเก็บใส่กระเป๋า ขอให้ดูก่อนว่าใช่พระของตัวเองหรือเปล่า

2.ทางกรรมการไม่ได้มีการหยิบพระออกจากกล่องแน่นอน โดยจะส่องทั้งกล่องครับ เพราะว่ากลัวสลับเหมือนกัน

3.ทางทีมงานถ่ายรูปขอให้เพิ่มช่างให้เยอะกว่านี้ เพื่อรองรับกับจำนวนพระที่มากมายเหลือเกิน และก็อยากให้ระวังการใส่พระในกล่องเดิมให้ถูกต้อง ก่อนที่จะนำมาส่งให้กับตู้ด้วยนะครับ เพราะว่าทางกรรมการไม่สามาร๔ทราบได้ว่าองค์ไหน เป็นพระของท่านไหน

ส่วนของพี่แดง พะเยานั้นน่าเห็นใจมากครับผม เพระายืนยันเสียงแข็งกันทั้งสองคนเลยว่าเป็นเจ้าของพระองค์เดียวกัน งงละซีครับทีนี้ แต่สุดท้ายก็ขอนับถือในความใจกว้างและเป็นผู้ใหญ่ของพี่แดงด้วยครับ ด้วยความเคารพ/ ธนภัทร

ด้วยความเคารพและนับถืออย่างสูงในความเสียสละและนํ้าใจสูงยิ่งของพี่แดงครับ  ขอบคุณครับ

ดีแล้วครับ จบลงได้ด้วยดี

บรรยากาศช่วงกลางวันดีเลยครับ จะมีช่วงค่ำที่มีหลายคนบ่นเล็กน้อย สุดท้ายงานผ่านไปก็จะลึมกันไปเองครับ ปีหน้าก็อุดรอยรั่ว ช่องโหว่กัน สุดท้ายก็สมบูรณ์ไปเองครับ

ผมอยู่ที่โต๊ะคืนพระ และคืนด้วยตัวเอง ก็เลยเห็นปัญหานิดหน่อย นี่คือในมุมของคนเป็นกรรมการนะครับ เมื่อวานมี3 รายการ ที่มีประชาชนคาใจ

1. ส่งผิดรายการ คือพระที่นำมาส่งไม่ตรงตามที่ระบุเอาไว้ในรายการ คือชื่อพิมพ์ผิด แต่ใกล้เคียง อันนี้มีปัญหาตั้งแต่ตอนส่งแล้ว สุดท้ายก็ตัดสินให้แต่ยอมติดที่ 2 รับพระไป ก็บ่นไป ด่าไป กรรมการคืนพระก็เซ็งนิดหน่อย แต่อยากจะให้เข้าใจนะครับว่าบางที พระกรุทั้งหลาย เมื่อมีการสังคายนาพิมพ์ จากกรรมการในพื้นที่แล้ว คนจะต้องรับฟัง และเข้าใจบ้าง เจ้าของพระจะยืนยันแบบเดิม จะเอาแบบเดิมไปตลอดปี ตลอดชาติคงไม่ได้ เพราะพระหลายกรุมีพิมพ์เยอะ การจัดชื่อกรุให้เหมาะสม มันขึ้นอยู่กับนักเล่นพระในพื้นที่เอง ทำให้เข้าใจง่าย และถูกต้องมากยิ่งขึ้น

เหมือนที่คนเรียกพระบูชา ว่า พระสิงห์ เมื่อไหร่ก็เรียกพระสิงห์ไปตลอด ไม่ลองคิดบ้างหล่ะครับว่าเวลามีข้อมูลจากการศึกษาใหม่ๆ ขึ้นมา นักวิชาการเขาก็ต้องเพิ่มเติมปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะให้ชื่อเรียกภูกต้องและเหมาะสมมากที่สุด

2. รายนี้เต็มๆ ผมตัดสินเอง มาชี้ชวนกันดูในตุ้ ว่าของตนเองสีเขียว ทำไมไม่ชนะสีพิกุล ม่ยุติธรรมบ้างหล่ะ กรรมการมันดูยังไงบ้างหล่ะ จริงอยู่พระสีเขียว ในทางมูลค่าแล้วอาจสูงกว่าเมื่อเทียบแบบตัวต่อตัว แต่อย่าลืมนะครับ ว่ารายการเขาไม่ได้บอกว่า สีเขียวต้องชนะ เพราะฉะนั้นต้องทราบเอาไว้ว่าตัดสินที่ความสวย และสมบูรณ์ พระขึ้นมาพร้อมกัน ไม่ต้องเถียงกันเรื่องปีที่สร้าง เพราะฉะนั้น เขียวไม่เขียวไม่เกี่ยว "เอางามว่า" ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่เงยหน้าขึ้นมาถามเลยหล่ะครับว่าทำไมไม่ได้ที่ 1 จะได้อธิบายให้ฟัง

3.รายสุดท้าย ชี้แจงกันจะจะ พระตนเองได้รางวัลชมเชย ถ้าหาที่ 1 ปรากฏว่าที่ 1 และ 2 เขารับกลับไปแล้ว ท่านก็บ่นเล็กน้อย เลยเอาที่ 3 ให้ดู บอกให้ดูเอา ว่า ต่างกันหรือเปล่า สุดท้าย เงียบ รับพระไปแล้ว ไปยืนบ่นอยู่ข้างหลัง 

ผมว่าการตัดสินโต๊ะนี้ ok แล้ว ส่วนจะบ่น จะไม่พอใจยังไง ต้องลองเอาไปพิจารณาดูสำหรับปีต่อไปนะครับ

เพราะปีหน้า ผมนั่งรับพระ และตัดสินโต๊ะนี้เหมือนเดิม

เพิ่มเติมอีกนิดครับ

ผมเชื่อนะครับว่า งานนี้พระสวยจริง และเยอะจริง กรรมการจะลำเอียงคงจะไม่กล้าหรอก เพราะเชื่อว่าจะมีเสียงวิจารณ์ตามมาอีกไม่น้อย

แต่หลังงาน ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เวลาเดินผ่านคนไปเที่ยวงานไม่กี่คน ที่พูดว่าไอ้พวกที่ได้โล่ห์รวม พวกเดียวกันทั้งนั้น

อยากจะไปถามจริงๆ เลยว่า พี่ รู้ป่าว ว่ากว่าที่เขาจะได้โล่ห์ขนาดนี้ เขาลงทุนไปตั้งเท่าไหร่ คำพูดห่วยๆ แบบนี้กลืนลงคอไปเลย จะดีกว่านะพี่

โพสไปแล้ว ข้อความหาย !!! โพสใหม่ก็ได้

งานนี้รู้สึกประทับใจอย่างยิ่งครับ

ไม่อยากจะ ตำนิ อะไร เพราะงานนนี้ ทุกคนที่ก้าวเข้ามาในงานนี้ ย่อมมาด้วยแรงศรัทรา อย่างแท้จริง กรรมการ เหนื่อยก็ต้องทน ที่ทนได้เพราะด้วยแรงศรัทราเช่นเดียวกัน  ปัญหา เล็กๆ น้อยๆ อย่าไปใส่ใจ  เก็บไว้แก้ไขก็ไม่สายครับ

อยากขอบพระคุณ พี่ๆน้องๆ วงการพระล้านนา ทุกๆคน ที่ได้เป็นกันเอง เหมือนครอบครัวเดียวกัน  ขอบคุณ อ.ตุ๋ย แม่โจ้ , พี่แป๊ะ , ลุงแดง , ป๋าเกษม , ลุงก๋อง , พี่โอ๊ะ , พี่จอร์น , พี่อาด , พี่ต๋อย , พี่เอ๋ , คนดวงดี , พี่บง , และ อีกหลายๆ ท่านที่ไม่ได้เอ่ยนาม ขอบคุณจากใจจริง สำหรับ ความรู้ สำหรับวิชา ที่ให้มา ขอบคุณพี่หล้า บารมีพ่อปู่ ที่สนับสนุนอยู่เสมอ ถึงแม้จะอยู่ที่เชียงราย และ ดีใจที่ได้พบกัน น้องกันต์ห้าแยก  (ตัวจริงหล่อ ไม่เบาเลยครับ) ขอบพระคุณ กรรมการ โต๊ะ 4 มีความเป็นมิตร ใจดีทุกท่าน ขอบพระคุณ กรรมการ สายเครื่องรางล้านนา ท่านมีความอดทนสูงมาก ขอบคุณกรรมการทุกโต๊ะ ผู้จัดทุกท่าน ที่ไม่ย่อท้อ ไม่เหน็ดเหนื่อย จนงานผ่านลุล่วงไปได้ด้วยดี ขอแสดงความเสียใจกับ ลุงก๋อง อยากที่สุด

ถึงงานนี้จะไม่ได้ พระบูชา มาไว้บูชาเลยสักองค์ แต่ก็ดีใจครับที่ได้มาร่วมงานนี้ รู้สึกเป็นเกียรติ ที่ได้ รู้จัก คนในวงการเพิ่มมากขึ้น ได้พบเห้น ตัวจิงๆ ตัวเป็นๆ

ขอบคุณ ร้านขายซาลาเปา  ที่เหลืออันท้ายไว้ให้ผม ประทังชีวิต ต่อไป.....

ที่สำคัญ กราบขอบพระคุณ ทีมงาน ทุกๆ ท่านไม่ว่าจะเป็น ท่าน อาจารย์ทั้ง 2 ไปจนกระทั่ง คนถ่ายรูป เพราะผมเห็นแล้วว่า คนเอาพระไปถ่ายรูปเหมือนจะเหนื่อยมากๆ เรยครับ

ไงก็เป็นกำลังใจ ให้ทีมงานต่อไปครับ อย่าไปท้อ

ดั่งคำครูบาเจ้าว่าไว้ว่า       มารบ่มี....บารมีบ่เกิด

ด้วยจิตคารวะ : แม็ก  พระช้างเผือก

โพสแล้วหาย งง อ่ะ

โดยทั่วไปส่วนใหญ่ผมว่าทุกคนพอใจนะคับไม่ว่าการจัดงานและการตัดสินพระเพราะได้เห็นและเปรียบเทียบกับที่ 1 2 3 แต่หลังไม่ค่อยได้เห็นรีบกลับกันหมด ก้อขอเป็นกำลังใจให้กรรมการทุกท่านครับ และผูจัดที่จัดงานเยี่ยมๆแบบนี้ครับ

งานออกมาโดยรวมก็ OK ให้กำลังใจผู้จัดงานฯ แต่ข้อผิดพลาดก็ให้เป็นครูสำหรับงานต่อไป แต่ขอตำนินิดหนึ่งที่ อจ.โชค ใช้คำว่า งานคุณภาพ มากเกินไปหน่อย และโต๊ะพระบูชาการตัดสินของกรรมการออกมาไม่ค่อยเป็นมาตรฐานชักเท่าไหร่ ขอยกข้อสังเกต รายการบูชาลป.คำแสน มีพระส่งอยู่ 3 องค์ บูชารุ่นแรกองค์หนึ่ง รุ่น 2 และพิมพ์สิวลีอย่างละองค์ ทำไมผลการตัดสินออกมา รุ่น 2 ติดที่ 1 ไปงั้น ส่วนตัวขอแนะนำ ประการแรก พระบูชารุ่นแรกสร้างน้อยมากไม่ค่อยมีให้เห็น(กรรมการตัดสินคงไม่ทราบ) ความหายากน่าจะอยู่ในเกณฑ์การพิจารณาเป็นอันดับแรก ประการที่ 2 พระบูชารุ่นสอง องค์ที่ติดรางวัล ปิดทองใหม่ ไม่อยู่ในสภาพเดิม ประการสุดท้าย พิมพ์พระสิวลีอยู่ในสภาพเดิมๆที่สุด น่าจะติดรางวัลมากที่สุด เพราะรุ่นแรกก็ไปทาทอง ด้วยความจริงใจ รายการต่อมา บูชาครูบาวงศ์ ยืน มีส่งอยู่ด้วยกัน 3 องค์ ทราบมาว่า หนึ่งในนั้นมีพิมพ์แจกกรรมการอยู่องค์หนึ่ง ด้วยคุณสมบัติของกรรมการตัดสินโต๊ะดังกล่าว ไม่ได้ดูให้โดยละเอียดถี่ถ้วน ใต้ฐานองค์พระเขาอุดของดีเอาไว้ให้ต่างกับพิมพ์ธรรมดา พิมพ์ทรงไม่แตกต่างกัน ที่พิเศษทราบมาว่าที่จริงแล้วองค์กรรมการเจ้าของเขาเอาหมวกและผ้าห่มคุมที่ติดพระตอนที่ออกจากวัดออกเพื่อไม่ให้กรรมการเข้าใจผิดว่าเสริมแต่ง จริงแล้วสร้างน้อย หายาก ออกวัดราคาสูง ด้วยความจริงใจ ครั้งต่อไป ขอจัดกรรมการที่เป็นมวยมาตัดสิ้นจะดีกว่า ขอบคุณ

ข้อเสนอ   สำหรับความคิดเห็นของผม คิดว่าน่าจะปรับตรงที่ ใบส่งพระเข้าประกวด   ทั้ง 2 ส่วน

ในส่วนที่ส่งพระ แนบไปกับกล่องพระนั้น ไม่ควรจะมีชื่อ.... นามสกุล....... และที่อยู่........ ผู้ส่งพระ

แต่ให้มี แค่เลขที่............... ก็พอ (กรรมการได้ข้อมูลแค่ เลขที่ กับ พระ )

ในส่วนที่จะรับพระคืน ควรมีชื่อ.......นามสกุล และที่อยู่ ของผู้ส่งพระเข้าประกวด( เพื่อลงข้อมูล ตอนรับพระคืนกรณีที่ติดรางวัลที่ 1 เพื่อรวบรวมคะแนน แต่ละโต๊ะ)

สาเหตุที่ควรปรับเปลี่ยนเพราะ

           1.  ไม่เห็นกรรมการ เอาข้อมูล ชื่อ- นามสกุล ที่อยู่ ไปใช้ประโยชน์อะไรเลย  เนื่องจากพอรับพระคืนกรรมการก็จะฉีก ทิ้งทั้ง 2 ส่วน

           2. ช่วยป้องกัน กรรมการ พิจารณาโน้มเอียง โดยดูจากชื่อ-นามสกุล ผู้ส่งพระได้ เช่น กรณีพระ 2 องค์ ที่ สวยงาม เดิมๆเหมือน ๆ กัน  ก้ำกึ่งพอๆ กัน ถ้าเห็นชื่อ –นามสกุล แล้วจะทำให้พิจารณาโน้มเอียงได้ สมมุติ เช่น

พระองค์ที่ เลขที่  4567  ของนาย  ชื่อ เสี่ยกว้างขวาง  นามสกุล รู้จักดี ที่อยู่  ร้านมีชื่อเสียง   และอยู่ในพื้นที่

กับพระอีกองค์ เลขที่    8921 ของ นาย  No name นามสกุล ไม่รู้จักเลย ที่อยู่ ต่างพื้นที่   คุณว่ากรรมการจะเทคะแนนให้ พระองค์ไหนครับ    ถ้าไม่ทราบชื่อ-นามสกุล  จะเห็นแต่องค์พระ กับหมายเลข จะตัดสินชี้ขาดยาก

 ก็ให้กรรมการกลาง หรือกรรมการทรงคุณวุฒิ มาตัดสินชี้ขาดได้    ดังนั้นผมคิดว่าควรปรับเปลี่ยนรูปแบบตรงใบส่งพระเข้าประกวด ครับผม

ความผิดของเราเท่ารูเข็ม  ความผิดของเขาเท่าภูเขา นี่หนอมนุษย์ ความหมาย เหมือน คุณ สมาธิเล็ก นั่นหละ ปีหน้าฟ้าใหม่ จัดอีกมันครับ ขนาดเมียหรือแฟนอยู่กันตั้งนานยังไมค่อยถูกใจนับปะสาอะไรกับคนอืน เป็นกำลังให้นะจ๊ะ