ในดินแดนแห่งภาคเหนือ ?เขลางค์นคร? วันนี้ พ.ศ.นี้ ต้องยอมรับว่าดินแดนแห่งนี้สิ้น ?หลวงพ่อเกษม เขมโก? ไปแล้วก็เงียบเหงา แต่ต่อไปนี้ดินแดนแห่งนี้อาจคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อ ?หลวงพ่อคำปัน ปภากโร? พระสงฆ์ผู้มีศีลาจารวัตรบริสุทธิ์ผุดผ่อง ราศีเจิดจ้าสว่างไสว มองท่านคราวใดก็สบายใจ ดวงตาเหมือนเด็กน้อย ?ไร้กิเลสพันห้า ตัณหาร้อยแปด? แสดงความบริสุทธิ์ผุดผ่องในร่มผ้ากาสาวพัสตร์ จะหาพระเถระแบบนี้ในปัจจุบันนี้มิใช่ง่ายๆ

เข้าเมืองลำปาง ผ่านวัดพระธาตุลำปางหลวง ลัดเลาะไปตามหมู่บ้านผ่านต้นลำใยสองข้างออกลูกเต็มต้น เลี้ยวโค้งไปมา บรรยากาศแห่งภาคเหนือในฤดูฝนชุ่มฉ่ำเบิกบานใจ เมื่อได้ไปเยือนถึง ?วัดพระธาตุจอมปิง? ที่มี ?ภาพพระธาตุกลับด้าน? ให้ดูในวิหาร เป็นความแปลกในทางวิทยาศาสตร์แห่งกล้องถ่ายภาพ แต่เป็นความบังเอิญหรือตั้งใจไม่รู้ได้ เป็นอัศจรรย์ที่น่าไปชมอีกแห่งหนึ่ง และชมเสียก่อนก็ได้ แล้วขับรถต่อไปถึง ?วัดจอมปิง? ชื่อคล้ายกัน แต่ไม่มีองค์พระธาตุตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง แล้วจึงขับรถข้าม ?แม่น้ำปิง? ไปอีกอึดใจเดียวก็พบ ?วัดนาแส่ง? อยู่เบื้องหน้า บรรยากาศเงียบสงัด เหมาะกับการบำเพ็ญเพียรภาวนา ?นัยว่ามีสัปายะ?? ที่ดีของผู้ทรงศีล วัดแห่งนี้มีพระเถระผู้ทรงศีลอันประเสริฐอยู่จำพรรษามานานปี ตามประวัติวัดสร้างมานับร้อยปี มีเจ้าอาวาสเป็นลำดับมาจนถึงปัจจุบันคือ ?พระครูรัตนปภากร? หรือ ?หลวงพ่อคำปัน? พระเถระผู้มีศีลบริสุทธิ์ดุจหยาดน้ำค้าง กระแสแห่งเมตตาแผ่ไพศาล ใครไปกราบแล้วก็รู้สึกชุ่มเย็นไปตลอดร่างกาย

?หลวงพ่อคำปัน? เกิดที่บ้านแล้น เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2467 ตรงกับ ?ปีชวด? อายุครบ 84 ปี 7 รอบ ไปเมื่อไม่นานมานี้ โยมบิดาชื่อ ?อินถา? โยมมารดาชื่อ ?จันทร์แก้ว? ในสกุล ?จันทะไท? มีพี่น้อง 5 คน มีผู้ชายคนเดียวคือ หลวงพ่อคำปัน ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของครอบครัว ช่วยบิดา-มารดาทำการเกษตรจนอายุครบบวช มีจิตใจฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนามาแต่เล็กแต่น้อย จึงบวชเณรอยู่ 5-6 ปี แล้วจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อปี พ.ศ.2487 โดยมี ?พระครูขัตติยะ? วัดสองแคว เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูอุดม วัดป่าแค เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระแสง วัดสองแคว เป็นอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า ?ปภากโร? แปลว่า ?ผู้มีแสงสว่างไสว? เมื่ออุปสมบทแล้วได้ศึกษาพระปริยัติธรรมกับพระครูขัตติยะ วัดสองแคว ซึ่งเป็นเจ้าคณะอำเภอจนมีความรู้แตกฉานทางธรรม จากนั้นจึงหันไปศึกษาวิปัสสนาจากพระอุปัชฌาย์ แล้วนำความรู้ทั้งสองด้านมาฝึกฝนจิตใจ บำเพ็ญเพียรภาวนาอย่างเอกอุ จนเห็นแจ้งในอริยมรรค มี ?องค์แปด? ขัดเกลากิเลสตัณหา เห็นทุกข์ในโลกียโลก จึงตั้งใจบวชตลอดชีวิต ?เพื่อความหลุดพ้น? จนเจ้าอาวาสวัดนาแส่งองค์เดิมคือ ?พระเมืองคำ? ลาสิกขาไป ชาวบ้านเห็นในศีลาจารวัตรของ ?พระคำปัน? น่าศรัทธาเลื่อมใส จึงอาราธนาให้เป็นเจ้าอาวาสวัดนาแส่งเป็นต้นมาจนบัดนี้

เมื่อ ปี พ.ศ.2539 อายุหลวงพ่อได้ 6 รอบ บรรดาศิษย์ที่เคารพเลื่อมใสหลวงพ่อคำปันจึงร่วมกันสร้างเหรียญรุ่นแรกรูป เหมือนหลวงพ่อ แล้วให้ท่านปลุกเสกเพื่อแจกในงานทำบุญอายุ เป็นเหรียญรูปไข่หน้าตรงครึ่งองค์ ห่มคลุม ด้านล่างเขียนว่า ?หลวงพ่อคำปัน ปภากโร? ด้านหลังเป็น ?ยันต์นะโมพุทธายะ? อยู่ตรงกลาง มีอักขระขอมลานนาสองบรรทัดบนและล่าง มีหนังสือไทยเขียนว่า ?ครบรอบ 72 ปี? วัดนาแส่ง โดยสร้างเป็นเนื้อทองแดง 22,539 เหรียญ หลังจากหลวงพ่อแจกจ่ายไปแล้ว มีผู้นำไปแขวนคอได้พบประสบการณ์มากมาย เหรียญในวัดที่มีอยู่หมดไปอย่างรวดเร็ว

?ผู้ใหญ่ประยูร เพิ่มพูล? อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 6 ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง ลูกศิษย์คนหนึ่งของ ?หลวงพ่อคำปัน? แขวนเหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อคำปัน ในคอเพียงเหรียญเดียว เดินกลับบ้านประมาณทุ่มหนึ่งผ่านหน้าวัดนาแส่ง พ้นเสาไฟฟ้าหน้าวัดมาไม่ไกล ก็มีคนร้าย 3-4 คนดักอยู่ พอเห็นผู้ใหญ่ประยูรเดินมาถึงก็กระหน่ำยิงด้วยปืนเอ็ม.16 เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ชาวบ้านและคนในวัดตื่นตระหนกตกใจกันไปทั้งตำบล ร่างของผู้ใหญ่ประยูรกระเด็นไปนอนอยู่ข้างถนน คนร้ายยิงจนหนำใจแล้วก็หลบหนีไป สิ้นเสียงปืนชาวบ้านก็ออกมาดูเพื่อเก็บศพผู้ใหญ่ประยูร แต่ปรากฏว่าผู้ใหญ่ประยูรไม่เป็นอะไร กระสุนโดนแขนจนเป็นรอยช้ำ ?สามนัด แขนหัก? แต่ไม่มีเลือดออก ชาวบ้านช่วยกันนับปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ นับได้ 36 นัด หลังจากเหตุการณ์นี้แล้ว ?เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อคำปัน? ก็เป็นที่หวงแหนของชาวนาแส่ง เพราะเห็นเหตุการณ์มากับตาทุกคน

อภินิหาร หลวงพ่อคำปัน ปภากโร วัดนาแส่ง ลำปาง ?เหนือธรรมชาติ ไฟไม่


กรณี เกิดเหตุเพลิงไหม้กุฏิวัดบ้านแม่ไฮ ม.2 ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2551 ที่ผ่านมา ทำให้กุฏิไม้สักสองชั้นถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง ทำให้เครื่องใช้ภายในกุฏิ และเครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ รวมถึงใบลานพระไตรปิฎกที่เก่าแก่ พระประธานเก่าแก่ พระเครื่องจำนวนหลายองค์ ตู้คัมภีร์โบราณที่มีอายุเก่าแก่หลาย 10 ปี และเงินสด ซึ่งเป็นเงินค่าใช้จ่ายของวัด และเงินบริจาคกว่า 300,000 บาท ที่เก็บไว้ในตู้ภายในห้องไหม้ทั้งหมด ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร หลังจากสามเณรได้ยินเสียงคล้ายไฟฟ้าช็อตบนกุฏิ ก่อนจะมีเปลวไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว และไหม้กุฏิวอดทั้งหลัง แต่ที่สร้างความแปลกประหลาดใจต่อชาวบ้านคือ ภาพของหลวงพ่อคำปัน วัดนาแส่ง ซึ่งถูกไฟไหม้และอยู่ในกองเพลิง ปรากฏว่าภาพของหลวงพ่อไม่ไหม้ ซึ่งสร้างความฮือฮาต่อชาวบ้าน เชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อ พระครูพิศาลอรรถกิจ เจ้าอาวาสวัดบ้านแม่ไฮ และยังดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลนาแส่งเปิดเผยว่า หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ดับไฟที่ไหม้กุฏิดับหมดแล้ว คณะศรัทธาได้เข้าไปเก็บข้าวของที่อาจจะมีเหลืออยู่ในกองเถ้าถ่าน พบว่ามีกล่องที่ด้านในบรรจุพระรูปเหมือนของหลวงพ่อคำปัน ปภากโร วัดนาแส่ง ที่ทางวัดได้จัดสร้างเพื่อแจกจ่ายแก่ผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสร้างพระ วิหารของวัดเมื่อปี 2541 ที่ผ่านมา ซึ่งทางวัดได้นำเก็บไว้ในกุฏิหลังที่เกิดเพลิงไหม้ตกอยู่ในกองเถ้าถ่าน จึงให้ศรัทธานำมาเก็บไว้และตรวจนับมีประมาณ 1,500 องค์ และขณะนี้พระ-เณรในวัดต้องอาศัยวิหารและศาลาวัด เพื่อจำวัดเป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับกรรมการวัดนำหลักฐานและบัญชีทรัพย์สินของวัดมาตรวจ สอบว่ามีอะไรบ้างที่เสียหาย เบื้องต้นทางวัดได้มีการจัดตั้งองค์ผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนสร้างกุฏิหลังใหม่แทนหลังเก่าที่ถูกไฟไหม้ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนสร้างกุฏิได้ที่วัดบ้านแม่ไฮได้ ทุกวัน ขณะเดียวกัน นายสัลเลข คำใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง พร้อมคณะนำสิ่งของเครื่องใช้ ตลอดจนเครื่องอัฐบริขารไปถวายแก่พระครูพิศาลอรรถกิจ เจ้าอาวาสและพระลูกวัด ที่จำวัดบ้านแม่ไฮ หมู่ที่ 2 ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง หลังจากกุฏิได้ถูกไฟไหม้ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ครับ
หลวงพ่อคำปัน วัดนาแส่ง (ครูบาคำปัน ปภากโร) มรณภาพ

หลวง พ่อคำปัน วัดนาแส่ง (ครูบาคำปัน ปภากโร) เกจิอาจารย์ชื่อดังลำปาง มรณภาพอย่างสงบ ด้วยโรคประจำตัว สร้างความเศร้าโศก เสียใจ ต่อศิษย์ยานุศิษย์ ก่อนจะพากันหลั่งไหลกราบไหว้และรดน้ำศพอย่างเนืองแน่น

เมื่อ วันที่ 5 พฤษภาคม 2552 ประชาชนชาวลำปาง โดยเฉพาะชาวอำเภอเกาะคา จำนวนมากพากันหลั่งไหลไปยังวัดนาแส่ง ม.6 ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง หลังได้รับทราบข่าวพระครูรัตนประภากร หรือครูบาคำปัน ปภากโร เจ้าอาวาสวัด นาแส่ง อายุ 84 ปี ได้มรณภาพลงในเวลา 04.52 น.วันเดียวกัน ด้วยโรคประจำตัว ทำให้ประชาชนชาวลำปางซึ่งเป็นศิษยานุศิษย์ ได้เดินทางไปกราบไหว้ศพกันอย่างเนื่องแน่นเต็มวัด โดยทางคณะกรรมการวัด และชาวบ้านนาแส่งได้นำศพของครูบาคำปัน ไว้ภายในหอฉันท์ของวัด โดยยังไม่ได้บรรจุอยู่ในโลงศพและเปิดโอกาสให้ประชาชน และศิษยานุศิษย์ ได้นำดอกไม้ และธูปเทียนกราบไหว้ หลวงปู่
กัน อย่าง มากมาย ครับ