สีผึ้งพยองคำ สีผึ้ง ๑ ในตำนานของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เกจิอาจารย์ท่านสร้างไว้เกจิอาจารย์สมัยนั้นท่านปลุกผีสาวขึ้นมาหุงให้เห็นกันจ๊ะๆเลยทีเดียวครับ หลายคนเอาไปใช้ได้ดิบได้ดีและมีประสบการณ์มากมายจนมีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าหากไครได้ครอบครองแล้วใช้ทางโชคลาภ เงินทอง ค้าขาย ก็จะได้เป็นเศรษฐี แต่หากใช้ทางมหาเสน่ห์แล้วเอาสีผึ้งป้ายหญิงหรือชายใดก็จักได้ครอบครองหญิงหรือชายนั้นอย่างแน่นอนเช่นกันครับ\n\nสีผึ้งพยองคำ...ครูบาวัดไม้ฮุง เครื่องรางบันดาลโชคลาภ บารมี ที่เลื่องลือในหมู่นักแสวงโชค คหบดี พ่อค้า ตลอดถึงคนทุกชนชั้น เพราะว่าหากบุคคลใดได้มาไว้บูชาจะเจริญด้วยโภคทรัพย์ ร่ำรวย ลาภยศ เงินทองนานาประการณ์ด้วยอิทธิคุณแห่ง\"สีผึ้งพยองคำ\"ของครูวัดไม้ฮุงนั่นเอง\nเล่ากันว่า สีผึ้งของครูบาท่านได้สร้างขึ้นนั้นมีกรรมวิธีที่ลึกล้ำพิศดารและวิชาอาคมบวกกับพลังจิตที่แกร่งกล้าของท่าน จึงทำให้สีผึ้งนี้มีอิทธิคุณวิเศษมากมายเป็นที่ประจักษ์ต่อผู้นำไปใช้จนกลายเป็นยอดปราถนาของทุกคน\n\"พยองคำ\"ของท่านนั้นมีกรรมวิธีการสร้างกว่าจะสำเร็จต้องอาศัยสถานที่ถึงสามที่ หุงกันถึงสามครั้งเลยทีเดียว เมื่อแรกเริ่มท่านทำพิธีหุงต่อหน้าพระประธานในพระอุโบสถ นัยว่า เป็นสถานที่ทำสังฆกรรมและเป็นสถานที่เกิดใหม่ของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาจนสำเร็จหนึ่งครั้ง จากนั้นนำไปหุงตรงทางสามแพร่ง นัยว่า เป็นสถานที่คนมารวมตัวกัน เจอกัน พูดคุยหัวเราะกัน เป็นสถานที่นัดพบ หุงจนมีคนมาถามว่า \"ครูบาทำอะไร\" ท่านจะตอบว่า \"ทำยาวิเศษโอสถทิพย์\" ที่บันดาลให้คนที่นับถือบูชามีความร่ำรวย เป็นมหาเสน่ห์อย่างยิ่ง จึงจะสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง พิธีสุดท้ายที่ท่านทำพิธีคือการปลูกผีจากหลุมขึ้นมาหุงสีผึ้ง(ยุคสมัยนั้นนิยมฝังศพเป็นส่วนมาก) ***ส่วนพิธีสุดท้ายนี้ขอไม่อธิบายให้มากความนะครับ ทว่าครูบาอาจารย์ยุค ๘๐ปีที่แล้วหรือยุค พ.ศ.สองพันสี่ร้อยกว่าๆ เรื่องอภิมิหารคงไม่ต้องบรรยายกันแล้ว ด้วยว่าการปลูกผีมาหุงสีผึ้งของท่าน บ้างจึงเรียกกันว่า \"สีผึ้งผีหุง\"หรือ\"พยองคำ\"เพราะที่พบเจอจะมีทองคำผสมอยู่ต่างกันออกไปตามวาระการสร้าง ตลอดชีวิตของท่านได้มีการสร้างอยู่ ๓ ครั้ง สีสรรค์วรรณะจึงต่างกันออกไป บางที่ปรากฏเม็ดพลอยเล็กๆหรือก้อนเงินเเท้อยู่ในตลับ เพื่อเป็นการบูชาหัวใจของสีผึ้ง สันนิษฐานว่าทำพิธีหุงสีผึ้งครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ มีวรรณะออกสีดำใสๆ มีกากยาหยาบๆ มีทองคำเปลวโบราณชิ้นใหญ่อยู่มากพอสมควร บรรยายด้วยภาพครับ
|